• AEROTHAI
วิทยุการบินฯ เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานทางวิ่ง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้เต็มขีดความสามารถรองรับ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และ ท่าอากาศยานดอนเมือง รองรับ 60 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เพื่อลดความล่าช้าของเที่ยวบินในช่วงเวลาที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่น และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น

ดร. ณพศิษฏ์  จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด  เปิดเผยว่า วิทยุการบินฯ ได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานทางวิ่ง (High Intensity Runway Operation หรือ HIRO) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการใช้งานทางวิ่ง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้ได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ให้ได้ 60 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรทางอากาศ ช่วยลดปัญหาความล่าช้า และลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการปฏิบัติการบิน โดยได้รับ       ความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสายการบินและท่าอากาศยาน ซึ่ง HIRO จะประกอบด้วยแนวทางปฏิบัติ 4 ด้าน ได้แก่  1. การจัดระยะห่างของอากาศยาน ทั้งขาเข้าและขาออก ให้กระชับและเป็นไปตามกฎเกณฑ์มาตรฐาน    โดยให้สัมพันธ์กับค่าการใช้เวลาบนทางวิ่งของอากาศยาน (Runway Occupancy Time) เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้มากที่สุด 2. การกำหนดความเร็วของอากาศยานให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์และคำแนะนำการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ เพื่อให้การรักษาระยะห่างระหว่างอากาศยานบนแนวร่อนลงทางวิ่งคงที่และสามารถทำการลงได้อย่างปลอดภัย 3. การออกข้อกำหนดคำแนะนำการใช้เวลาบนทางวิ่งของอากาศยาน (Runway Occupancy Time) ให้ใช้เวลาที่สั้นที่สุด เพื่อให้อากาศยานทุกลำสามารถใช้ทางวิ่งร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. การกำหนดทางขับ (Preferred-Exit Taxiway) ที่เหมาะสม เพื่อให้อากาศยานเลี้ยวออกจากทางวิ่งโดยใช้เวลาที่น้อยที่สุด

ดร. ณพศิษฏ์  จักรพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการดำเนินโครงการ HIRO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานทางวิ่ง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ดังกล่าว วิทยุการบินฯ ได้จัดทำระบบจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อใช้ในการติดตามผลการปฏิบัติ และนำข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุงการปฏิบัติการบินและการจัดการจราจรทางอากาศให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งยังได้นำส่งข้อมูลดังกล่าวให้สายการบินและท่าอากาศยาน เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันให้บรรลุเป้าหมายการใช้งานทางวิ่งให้เกิดประโยชน์และเต็มขีดความสามารถสูงสุดต่อไป